ดูหนัง godzilla แม้กระนั้นภาคนี้ดึงผู้แสดงจากภาคที่แล้วมาเกือบจะครบ แล้วยังเพิ่มนักแสดงใหม่ๆเข้าไปทั้งยัง จางสิยี่ , โอเชียร์ แจ็คสัน แล้วก็ ชาร์ล แดนซ์ ที่แต่ละคนก็เล่นกันด้วยอารมณ์หน้านิ่วคิ้วขมวดเช่นเดียวกันหมด เพียงพอเพิ่มเรื่องราวของฝั่งมนุษย์ก็เลยเปลี่ยนเป็นความกลุ้มใจที่จะจะต้องแบ่งน้ำหนักเฉลี่ยมาให้บรรดาผู้แสดงมนุษย์ โดยยิ่งไปกว่านั้นฉากดราม่าที่มิได้สร้างอารมณ์ร่วมเลยหากแม้เพียงแต่นิด ฉากการเสียสละชีวิตของนักแสดงหลักก็ใส่เข้ามาตามสูตรสำเร็จในหนัง ตามจารีตหนังภัยพินาศ ฉากดราม่าบิดามารดาลูกก็เหมือนกันตามสูตรเป๊ะที่จะจำเป็นต้องเห็นใจกันท่ามกึ่งกลางภัยอันตราย บทเมดิสัน ของไม่ลลี่ บ็อบบี้ บราวน์ ยังคงเอกลักษณ์ของนักแสดงเด็กหญิงในหนังภัยที่เป็นตัวสร้างภาระหน้าที่ความอลหม่านในหนังจำพวกนี้ กรี๊ด กรี๊ด
- “Godzilla vs. Kong” น่าจะเป็นหนึ่งในโปรแกรมหนังบ็อกซ์บัสเตอร์ฟอร์มยักษ์ที่มีคนรักๆหลายท่านทั้งโลกรอรอ ลุ้นอย่างใจสนใจว่าจะเลื่อนฉายไปอย่างกับโชคชะตาหนังเรื่องอื่นๆไหม แม้กระนั้น วอร์เนอร์ บราคุณร์ส ได้ตกลงใจรวมทั้งการันตีส่งหนังออกฉายตามที่ได้มีการกำหนดเดิมนี้ แม้กระนั้นบ้านพวกเราได้ผลบุญตรงที่ยังไม่มีบริการสตรีมมิ่งดังหลายพื้นที่ทั้งโลก ทำให้พวกเรายังได้โอกาสได้มองอีเวนต์ใหญ่คราวนี้กันบนหน้าจอใหญ่ๆในโรง และก็หนังประเด็นนี้มันควรเป็นแบบนั้น ควรที่จะออกมาให้สะกดตาอยู่ในโรงภาพยนต์แค่นั้นจริงๆ
รีวิวหนัง ดูหนัง godzilla อีเวนต์ใหญ่ชนใหญ่ ที่กล่าวได้คำเดียวเป็น…มัน!
หนังสืบต่อเรื่องราวจาก Godzilla (2014) ตามขณะจริง หนังเว้นห่างกัน 5 ปี เรื่องในหนังก็ห่างกัน 5 ปี ภายหลังจากการปรากฏตัวของ ก็อดสิลล่า วิทยาการของหน่วยงานโมนาร์ชก็ปรับปรุงขึ้น สามารถค้นพบอสุรียักษ์ที่หลบอยู่ตามมุมต่างๆของโลกได้ถึง 17 ตัว และก็ข้างในตอน 5 ปีนี่ ดร.เอ็มม่า ก็สามารถปรับปรุงวัสดุอุปกรณ์ซึ่งสามารถสร้างคลื่นความถี่ซึ่งสามารถติดต่อกับอสุรียักษ์ได้ เรียกวัสดุอุปกรณ์นี้ว่า “ออการ์” ในขณะที่ใช้ออการ์ติดต่อสื่อสารกับม็อธร่า โจนาห์ อลัน หัวหน้าทีมผู้ก่อให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงก็มาชิงออการ์และก็จับ ดร.เอ็มมา กับเมดิสัน บุตรสาวไป แล้วก็ใช้ออการ์สำหรับการปลุกยักษ์ยักษ์ทั้งโลก ทำให้ก็อดสิลล่าจำเป็นต้องลุกขึ้นยืนมาอีกรอบ เพื่อกำราบเหล่ายักษ์ยักษ์ทั่วทั้งโลก รวมทั้งหนึ่งในนั้นเป็น คิงกิโดร่า มังกร 3 หัว คู่แข่งขันนิรันดรของก็อดสิลล่า ที่รอบนี้เล่นเอาพี่ก็อดเกือบจะห่วยอยู่บ่อยมาก
ภายหลังจาก Godzilla (2014)ออกฉาย ก็มีเสียงพร่ำบ่นจากผู้ชมว่าได้มองเห็นตัวก็อดสิลล่าไม่เพียงพอไม่จุใจเลย ทางค่ายก็ฟังเสียงจากผู้ชม มาถึง Godzilla: King of the Monsters ก็เลยจัดให้แบบหนำใจกันไปเลย หนังปูเรื่องแค่เพียง 10 นาที บรรดาอสุรียักษ์ก็ทยอยกันเผยตัว พี่ก็อดก็ออกมาพะบู๊กันตั้งแต่ต้นเรื่องไปเลย ทำให้บรรยากาศของภาคนี้มองไกลห่างจาก Godzilla (2014)ไปๆมาๆก
แม้นี่เป็นหนังภาคต่อเนื่องกัน จากภาคที่แล้วมองเห็นก็อดสิลล่ากันแบบวับแวบแวมๆมืดๆภาคนี้ก็เลยมายืนจังก้าให้มองเห็นกันเต็มๆไป ย้ำขายเหล่ายักษ์ยักษ์ตีกันแบบเป็นจริงเป็นจัง ถึงแม้ว่าในเทรลเลอร์กล่าวว่าโมนาร์ชศึกษาและทำการค้นพบอสุรียักษ์ทั่วทั้งโลก 17 ตัว ดูหนัง godzilla แม้กระนั้นก็มีหน้าที่จริงๆเพียงแค่ 4 ตัวหลักเป็น ก็อดสิลล่า , คิงกิโดราห์ , ม็อธร่า แล้วก็ โรดัน แค่นั้น ที่เหลือก็เดินผ่านกล้องถ่ายรูปให้มองเห็นเพียงแค่ 2-3 ฉาก
รีวิวหนัง Godzilla : King of the Monsters
เคยเป็นชื่อของGodzillaภาคแรก(1954)ที่เช็ดเอามาตัดต่อใหม่เพื่อฉายในอเมริกาในปี 1956 แต่แล้วพอถึงปีนี้ มันเป็นชื่อหนังภาคต่อของGodzilla (2014) ของผู้กำกับการกาเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส(Monsters, Rogue One : Star Wars Story) ภายหลังที่ภาคนั้นบรรลุผลสำเร็จอย่างมาก แก้ตัวที่ดินฮอลลีวู้ดเคยทำผิดพลาดไปในปี1998 ได้ โดยภาคนี้มิได้มีเพียงแค่ก็อดสิลล่าที่มาออกโรง แต่ว่าผู้กำกับการไมเคิล ดัคเฮอร์ตี้(จากKrampus)ที่มารับไม้ต่อจากกาเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส ยังขนศัตรูตัวฉกาจอย่างมังกรสามหัวคิงกิโดร่า นกยักษ์โรดั้น แล้วก็ผีเสื้อมอธร่ามาร่วมวงด้วย g2g168bet
- ก็อดสิลลา ปะทะ คอง ได้เล่าราวของ คอง และก็ผู้ติดตามของมันเริ่มการเดินทางเสี่ยงภัยเพื่อตามหาบ้านที่จริงจริง หนึ่งในผู้ร่วมทางนั้นเป็น เจีย สาวน้อยกำพร้าที่มีสายสัมพันธ์มิตรภาพอันแกร่งและไม่ราวกับคนไหนกันเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา โชคร้ายที่พวกเขาดันเลือกเดินทางที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการเผชิญหน้ากับ ก็อดสิลล่า ที่กำลังกราดเกรี้ยวกำเนิดเป็นความวายวอดไปทั้งโลก แม้กระนั้นโดยความเป็นจริงแล้วศึกสังเวียนของสองยักษ์ใหญ่ในตำนานคราวนี้ถูกสั่งการด้วยอำนาจปัญหา รวมทั้งเป็นพึ่งจะจุดเริ่มแรกของความลับที่หลบอยู่ภายใต้จุดศูนย์กลางของโลกมนุษย์เพียงเท่านั้น!
เหนือสิ่งอื่นใด…จำต้องขอตบมือให้กับคณะทำงานเบื้องหน้าเบื้องหลังผู้ผลิตหนังประเด็นนี้แทบจะทั้งหมด เพราะเหตุว่าพวกเขาได้สรรค์สร้างผลงานเหนือจินตนาการสุดล้ำออกมาสู้สายตาผู้ชมได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจและก็มอบความรื่นเริงใจได้เต็มเปี่ยม เติมเต็มตอนที่แฮปปี้กับหนังสไตล์นี้ที่ห่างหายไปเป็นปีแล้ว นี่ก็เลยแปลงเป็นหนังบ็อกซ์บัสเตอร์ทุนสูงที่จัดแล้วก็ใส่พลังมาอย่างมากถ่วง กับคำตอบที่ออกมาออกจะสะดุดตาแล้วก็ถูกใจอยู่ไม่น้อย
มนุษย์เป็นจุดเริ่มของหายนะ
ความสะดุดตาของ Godzilla II: King of the Monsters เป็นฉากการต่อสู้ปะทะกันระหว่างอสูรกายหรือไคจูในเรื่อง ยังไม่รวมถึงฉากที่ผู้แสดงพวกนี้แสดงตัวขึ้นมาบนจอภาพยนตร์เป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นฉากที่มอธร่าออกมาจากไข่เป็นครั้งแรกในตอนต้นเรื่อง กิโดร่าที่ถูกแช่แข็งอยู่ในก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ โรดินแดน นกยักษ์ที่เกิดออกมาจากหินลาวา รวมทั้งอีกเยอะแยะหลายฉากล้วนแต่ชักชวนตรึงตราและก็น่าจำ
- โทนหนังของภาคนี้คงจะชอบใจผู้ชมในกรุ๊ปเด็กชาย ที่ถูกใจตัวประหลาดยักษ์เสียมากกว่า เพราะว่าบรรยากาศหนังออกไปแนวอุลตร้าแมนมากมาย จากภาคก่อนๆที่วางหน้าที่ของก็อดสิลล่าให้เป็นอสูรกายยักษ์สมัยดึกดำบรรพ์ซุกตัวอยู่ใต้สมุทรลึก เพื่อหนีห่างจากมนุษย์โลก ตัวก็อดสิลล่ายังมีความลี้ลับน่าสยองให้สัมผัสได้ ในโทนที่ใกล้เคียงกับบรรดาไดโนเสาร์ในแฟรนไชส์ Jurassic Park เมื่อใดก็ตามเสนอแนะไดโนเสาร์จำพวกใหม่ ก็จะต้องลุ้นกับภาพลักษณ์แล้วก็พิษสงของมัน
แม้กระนั้นกับบรรดาอสุรียักษ์ใน ดูหนัง godzilla กลับปราศจากความลึกลับน่าสยดสยองเหลือให้สัมผัสเลย แต่ละตัวราวกับตัวประหลาดในหนังอุลตร้าแมนที่ออกมาตบตีกันตุ้บตั้บ แล้วมีท่าไม้เด็ดด้วยการกระจายแสง เป็นภาคที่พาเหล่ายักษ์ยักษ์ยกฐานะไปไกลจนกระทั่งไม่อาจความเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ให้มองเห็นอีกต่อไป ฉากที่บรรดายักษ์ยักษ์ตีกันก็เพียงพอสนุกสนานดี ถูกใจที่สุดเป็นฉากโรดันต่อสู้กับเรือบินรบเป็นฉากที่ยาวแล้วก็สนุกสนาน
ตรงกันข้ามกับผู้แสดงมนุษย์ในเรื่อง ที่มีลักษณะออกจะน่าเบื่อ แสดงใหญ่มโหฬารโอเวอร์แอ็คติ้งกันอยู่ตลอดระยะเวลาเหมือนกับว่า กลุ่มกำกับการแสดงบรีฟให้พวกเขาเล่นใหญ่ในระดับเดียวกับความสูงของก็อดสิลล่า! ยังไม่รวมถึงบทภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องดราม่าครอบครัว ที่นำพาสถานะการณ์ทั้งสิ้นไปสู่หายนะสุดยอด! พวกเราอาจจะไม่สามารถไม่ยอมรับได้ว่า แนวความคิดการก่อให้เกิดเหตุร้ายเชิงนิเวศที่จำต้องไปปลุกเหล่าไคจูให้ยืนขึ้นมาต่อสู้กันเพื่อปรับสมดุลของธรรมชาตินั้นเป็นแถวคิดที่ไม่ค่อยมองมีสติสัมปชัญญะสักเท่าไหร่ สิ่งที่เกิดขึ้นในหนังประเด็นนี้ทำให้พวกเราเห็นว่าความไม่อบอุ่นข้างในครอบครัวนั้น บางครั้งก็อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาที่ขยายแย่ลงกว่าเดิมใหญ่มหึมาจนกระทั่งเกินควบคุม
สมคำร่ำลือที่สุดที่ปีจากประเทศญี่ปุ่น ชมเชยออริจินัลแบบน้ำตาปริ่มยิ้ม
น่าจะจำต้องกล่าวว่าแทบได้โอกาสค่อนข้างจะลดน้อยลงเรื่อยที่บ้านพวกเราจะได้มอง “Godzilla Minus One” ในโรงภาพยนต์ เนื่องจากผู้ครอบครองหนังอย่าง โทโฮ ก็ยังไม่มีแนวความคิดที่จะทำตลาดฉายหนังประเด็นนี้ในทวีปเอเชียเลย เน้นย้ำทำตลาดฝั่งอเมริกากับยุโรปรัวๆด้วยเหตุนี้บทความรีวิวนี้ก็เลยฉวยโอกาสเผยประสบการณ์ที่นักเขียนได้ไปดูหนังประเด็นนี้ด้วยตัวเองจากญี่ปุ่น รวมทั้งต้องการจะถ่ายทอดร้อยเรียงคำพูดที่น่าดึงดูดให้แฟนคลับหนังได้เชยชมกัน
ขั้นตอนการดูแลภาพยนตร์ของผู้กำกับไมเคิล โดเฮอร์ตี้ ซึ่งดังแล้วก็สร้างชื่อให้กับตนเองด้วยการดูแลหนังตัวประหลาดวันคริสต์มาสเรื่อง Krampus (2015) โดยฉากที่ตัวประหลาดออกไล่ล่านักแสดงมนุษย์นั้นเขาทำออกมาได้อย่างเด่น ตื่นเต้น รวมทั้งเชิญลุ้นระทึก แม้กระนั้นเมื่อเขาพากเพียรจะดูแลฉากดราม่าของผู้แสดงมนุษย์กลับมองสะเปะสะปะ เช่นเดียวกันกับผู้แสดงมนุษย์ในหนังเรื่อง ดูหนัง godzilla ที่มีลักษณะคล้ายกัน
แม้ว่าจะทำใจไว้แล้วว่านี่เป็นหนังอสูรกายที่สร้างโดยฮอลลีวู้ด จะต้องปล่อยวางเรื่องตรรกะเรื่องจริงให้เยอะที่สุด แม้กระนั้นในเนื้อหาของหนังเรื่องความเกี่ยวข้องของนักแสดง ความนึกคิดการตัดสินใจของผู้แสดง ที่เกิดเรื่องร้ายแรง ก็ตามมองไร้เหตุผลอย่างสิ้นเชิง ทั้งปวงจำต้องชี้นิ้วไปที่ผู้เดียวเป็น ไมเคิล โดเฮอร์ตี้ ผู้กำกับที่เหมาหน้าที่เขียนบทเองด้วย กับการเพิ่มนักแสดงบุคคลเข้าไปอีกมากมายในหนังที่มียักษ์ยักษ์วิ่งกันเต็มหน้าจอไปหมดอย่างงี้ ผู้แสดงมนุษย์หลายๆตัวก็มองใส่เข้ามาให้เกินไป
วิธีพิเศษของหนัง Godzilla vs. Kong
เป็นสิ่งที่จำต้องยอมรับโป้งให้ ด้วยเหตุว่านี่เป็นความยอดเยี่ยมอีกขั้นหนึ่ง ดีไม่ดีพวกเขาได้กำหนดมมาตรฐานใหม่ให้กับแวดวงหนังขึ้นด้วย เพราะเหตุว่าการวางแบบฉากรวมทั้งส่วนประกอบต่างๆมองลื่นไหลแล้วก็เลิศ เกือบจะไม่มีส่วนไหนในเรื่องที่สะดุดหรือขัดหูขัดตาขึ้นมาเลยสักหน่อย หลายๆฉากวางแบบได้แบบจะต้องร้องว้าว มองมีเนื้อหาและก็จิตใจใส่ส่วนประกอบนิดๆหน่อยๆแล้วก็เมื่อรวมกับมุมกล้องถ่ายภาพที่มีกิมไม่กในหนังแล้ว ทุกสิ่งก็เลยเกือบเพอร์เฟ็คอย่างยิ่งจริงๆ
- โดยที่รูปแบบการทำงานของผู้กำกับ “อดีม วิงการ์ด” ได้มอบวิสัยทัศน์สำหรับในการเล่าที่ประทับจิตใจอยู่ไม่น้อย แม้จำเป็นจะต้องเห็นด้วยว่าในส่วนของบทหนังประเด็นนี้ยังออกจะอ่อนไปสักนิดสักหน่อย มีองค์ประกอบที่ยังไม่แข็งแรงสักเท่าไหร่ แต่ว่าเขากลับรู้จักแนวทางที่จะใช้ส่วนอื่นมาประกอบร่างรวมทั้งสร้างความแข็งแกร่งให้กับหนัง ก็เลยทำให้บทหนังที่อ่อนนุ่มได้ถูกละเลยไปอย่างสิ้นเชิง แล้วก็ผู้ชมหันมาจุดโฟกัสเอามันกับ ก็อดสิลลา รวมทั้ง คอง ตอบแทน
ก็อดสิลล่า ปะทะ คอง ผลงานการผลิตจากค่าย Warner Brother Pictures แล้วก็ Legendary Pictures ผู้ผลิตจักรวาลหนังเป็นของตนเองในชื่อ Monsterverse ซึ่งในภาคนี้จะเล่าราวต่อจากสถานะการณ์ใน ดูหนัง godzilla โดยเกิดเรื่องราวเมื่อ คอง กำลังถูกพากลับไปยังถิ่นฐานบ้านช่องใน Hollow Earth แต่ว่าและก็เกิดเหตุการณ์นึกไม่ถึง เมื่อก็อดสิลล่าได้เผยตัวเพื่อเข้าจู่โจมคอง แล้วก็ก่อกวนฆ่าล้างทำลายประเทศ ในขณะที่ข้างมนุษย์ก็จำต้องค้นหาความเป็นจริงว่า อะไรเป็นเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ทำให้ก็อดสิลล่าออกก่อกวนอย่างไร้ปัจจัย
ท่าทีจะประตูบานใหญ่ที่ตั้งดวงใจเปิดออกสู่ “Monsterverse” ดูเหมือนมีวี่แววไม่ดีเสียแล้ว กับโปรเจกต์สำคัญของค่ายลีเจนดาปรี่ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ที่คาดหวังจะมีจักรวาลเป็นของตนเอง ด้วยการซื้อคำสัญญาร่วมกับโตโฮ บริษัทหนังใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าของตัวประหลาดยักษ์เยอะแยะในจักรวาลก็อดสิลล่าของเขา ที่มีประวัตินานมาตั้งแต่สมัย 60s ภายหลังปูทางมาตั้งแต่ Godzilla (2014) สม่ำเสมอมาถึง Kong : Skull Island (2017) และจากนั้นก็ฉวยโอกาสเปิดตัวเต็มๆว่านี่เป็นการเปิดจักรวาลอสูรกายยักษ์ ด้วยการดึงเหล่าตัวประหลาดยักษ์ของโตโฮมาโชว์โฉมกันมากมายอีกทั้งก็อดสิลล่า , คิงกิโดราห์ , ม็อธร่า และก็ โรดัน แถมยังมีอีกหลายตัวที่มาเดินโชว์โฉมแม้กระนั้นมิได้มีการชี้แนะชื่อให้ได้ทราบจะ